ความทรงจำที่แสนดีที่ เกาะหลีเป๊ะ


ถ้าพูดถึงทะเลอันดามัน คนที่ชอบเที่ยวทะเลต้องรู้จักแน่ๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ถามว่าเคยไปเกาะหลีเป๊ะ จะตอบได้คำเดียวว่าสวยมาก แต่ถ้าถามคนไทยด้วยกัน นั้นบอกว่าที่ไหนอะ จังหวัดอะไร งง กันตามๆ ไป ไม่ก็จะพูดว่า เกาะตะรุเตาอะหรอ จิงๆ แล้วนั้นอยู่ใกล้กันนั้นแหละ ถ้าพูดถึงความสวยนั้นแตกต่างกันเลย บนเกาะ

หลีเป๊ะมีหาด 3 แห่งให้เราเดินเล่น คือ หาดพัทยา ถ้าให้พูดถึงหาดพัทยานั้น เป็นหาดทรายสีขาวที่ยาวเรียบและเป็นที่จุดชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็น ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะอาบแดดหน้าหาดนี้มาก บ้างก็นั่งอ่านหนังสือ เล่นน้ำ กัน หาดนี่เป็นจุด เรือเทียบท่าด้วย
หาดที่สองคือหาดซันไรส์ เป็นหาดหนึ่งที่ยาวพอพอกับหาดพัทยา เพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และยังเป็นที่พักของชาวประมง ส่วนมากเรือประมงจะจอดเทียบท่าอยู่บริเวณหน้าหาดนี้ จุดนี้มองเห็นเกาะอาดัง เราสามารถข้ามไปเกาะอาดังได้เพื่อข้ามไปดูจุดชมวิวฝั่งตรงข้าม คือผาชะโด ถ้าขึ้นไปบนจุดชมวิวนั้นสามารถที่จะมองเห็นเกาะหลีเป๊ะ ได้ทั่วเลย ค่าข้ามเรือข้ามไปเกาะอาดัง 50 บาท ไปกลับ 100 บาท เราต้องไปบอกกับชาวประมงบริเวณนั้นเอง สำหรับหาดที่สามนั้นคือ หาดซันเซ็ท หรือ(หาดสบาย) สมชือเลย หายสบาย สบายจิงๆ เป็นหาดที่เงียบสงบ สบายมาก หาดทรายขาว น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับวันสบายๆ เพื่อไปผักผ่อน ผู้คนน้อยไม่เดินมาก
นอกจากหาดบนเกาะหลีเป๊ะแล้ว ยังมีที่น่าเที่ยวนั่นคือ ถนนคนเดิน หรือ (Walking Street) เป็นถนนที่มี ร้านอาหาร ผับ บาร์ เหมาะสำหรับคนเที่ยวกลางคืน อาหารราคาจะแพง ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของที่ระลึก เคาน์เตอร์ดำน้ำ และ ร้านขายโรตี ที่พลาดไม่ได้เลย ร้านนุชโรตี ร้านนี้จะราคาถูกกว่าร้านอื่นและยังเป็นเจ้า

แรกที่เปิดขายบนเกาะหลีเป๊ะด้วยน่ะ ราคาไม่แพงมาก ธรรมดา 20 ใส่ไข่ 30 ยังไงถ้าใครไปเกาะหลีเป๊ะห้าม พลาด !!

ระยะทางของถนนคนเดินไม่ไกลนักเดินไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ทั่วถนนแล้ว เราสามารถเดินได้ทั่วเกาะ โดยไม่ต้องนั่งรถ เพราะเกาะหลีเป๊ะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เดินได้สบาย อาจจะร้อนและเหมื่อยหน่อย
การไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะที่เราไม่ควรพลาดนั้นคือ การดำน้ำเป็นสิ่งที่น่าประทับใจเป็นอันมากกับการได้ออกไปเที่ยวรอบเกาะ ดูทะเลใต้น้ำ เริ่มต้นด้วย การซื้อแพคเก็จ one day trip มี 2 โปรแกรม แต่ละโปรแกรมต้องถามเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะโปรแกรม2 ต้องดูสภาพอากาศด้วย เพราะบางทีไม่สามารถไปได้ แต่เราได้ไปมานั้นเป็นโปรแกรม 1 เพราะ วันนั้นไม่สามารถไป โปรแกรม 2 ได้ เจ้าหน้าที่ขายแค่โปรแกรมเดียว คือโปรแกรม 1 จุดแรกที่จะพาไปคือ เกาะจาบัง พาไปจุดที่เป็นช่องน้ำจาบัง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูปะการัง 7 สี การที่จะดำลงไปดูนั้นต้องเกาะเชือกไปเรื่อย ๆ เพราะกระแสน้ำนั้นแรงมาก หากใครว่ายน้ำไม่แข็ง อาจจะโดนน้ำซัดออกไปนอก บริเวณนั้นเลย ควรจับเชือกไว้ดีกว่า
จุดที่สอง เกาะหินงาม อันนี้พลาดไม่ได้เเลยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนั้นชอบมาก เนื่องจากว่าบนเกาะนี้น่ะ จะเต็มไปด้วยหินสีดำกลมเรียบเนียน แต่ละก้อนจะมีขนาดที่แตกต่างกันไป เวลาที่น้ำทะเลซัดโดนหินน่ะ สวยงามมากชาวประมงเล่าให้ฟังว่า ถ้าใครซ้อนได้ 12 ก้อน แล้วอธิษฐานแล้วจะเป็นจริง อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วยมีข้อห้ามอยู่ว่าหรือคำสาบเจ้าพ่อตะรุเตามีว่า ถ้าใครนำหินกลับมานั้น จะพบแต่ความทุกข์และโชคร้าย เราควรเก็บแค่เพียงภาพถ่ายมาเป็นที่ระลึกดีกว่าจุดที่สาม นั้นคืดเกาะราวี เป็นเกาะที่มีหาดทรายยาว สีขาว เม็ดทรายที่ละเอียด แทบไม่มีคำบรรยายเลย เพราะสวยมาก และพราดไม่ได้สำหรับจุดที่นักท่องเที่ยวชอบที่จะไปถ่ายรูปคู่นั้นคือ รูปขอนไม้ที่ลอยมาติดอยู่ที่หน้าหาด สดุดตามาก เพราะสวยจริง เราได้พบกับความสวยบนหาดแล้ว เรายังได้อิ่มท้องบนเกาะนี้ด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำจะมาพักทานอาหารกลางวัน และพักผ่อนบนเกาะนี้ด้วย เป็นที่เหมาะสำหรับพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการดำน้ำจุดสุดท้ายของทริปดำน้ำในครั้งนี้คือ เกาะอาดัง เป็นจุดที่ให้ดำน้ำและเล่นน้ำตามความต้องการ เกาะนี้สวยน่ะหาดทรายขาว ละเอียดมาก ละเอียดกว่าทุกๆ เกาะที่ไปมาเลยล่ะ ถ้าใครไม่สังเกตุจะไม่รู้เลยว่ามันละเอียดมาก มี เม็ดดำๆ ติดกับทรายขาว ดูแล้วสวยมาก ทริปนี้ปิดท้ายด้วยแตงโมลูกโตๆโปรแกรมท่องเที่ยวนี้ รวมอาหารกลางวัน+ผลไม้+น้ำดื่ม +อุปกรณืดำน้ำ ถือว่าคุ้มมาก แนะนำสำหรับมาเป็นกลุ่มเช่าเรือได้ แต่ไม่รวมข้าว อุปกรณ์ดำน้ำ เหมาเรือ เราต้องเช่าอุปกรณ์ดำน้ำและ เตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปเองจบทริปนี้ต่อด้วยตอนเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เตรียมตัวเก็บกระเป๋าเดินทางกลับ

การเดินทาง
เดินทางโดยรถประจำทาง
เดินทางจากทม เริ่มจากสายใต้ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพ - ตรัง - สตูล ลงที่ละงู หน้าธนาคารไทยพาณิชย์

ค่ารถทัวร์ 725 บาท รถ ม.2 มี 2 เที่ยว 7.00 น และ 18.30 
เครื่องบินกรุงเทพ - หาดใหญ่ แล้วต่อรถตู้มาที่ท่าเรือ ปากบารา
ต่อรถสองแถวสีแดง ไปที่ท่าเรือ ปากบารา 20 บาท นั่งประมาณ 15 นาที ระหว่างทางจะเห็นทะเลด้วย
เดินทางโดยเครื่องบินทริปนี้ไม่ได้เดินทางไปโดยเครื่องบิน แต่เราไม่สามารถนั่งเครื่องไปลงสตูลได้น่ะ สามารถใช้บริการเที่ยว
สำหรับค่าเรือ ไป-กลับ 1,200 บาท มีเคาท์เตอร์ สำหรับจองตั๋วเรือ โดย Bundhaya Speed Boat, เรืออาดังซี และ เรือฟอร์ร่า เวลา 11.00 , 12.30 และ 14.00 น.
บนเกาะหลีเป๊ะไม่มีท่าเรือ มีแต่โป๊ะสำหรับเรือเทียบท่า แล้วเราต้องต่อเรือเข้าไปอีก ค่าเรือเข้าเกาะ 50 บาทต่อคน
ลืมบอกไปว่าระหว่างที่นั่งเรือไปเกาะหลีเป๊ะนั้น จะไปจุดพักที่ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป คือเกาะตะรุเตา เพื่อรับส่งผู้โดยสาร และ บางบริษัทนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากปากบารา สามารถขึ้นไปถ่ายรูปบนเกาะตะรุเตาได้ ในเวลา 10-15 นาที และ เกาะไข่ เพื่อให้ผู้โดยสารลงไปถ่ายรูปกับซุ้มประตูหินของเกาะ ไข่ เป็นสัญลักษณ์ของการท่อง

เที่ยว สตูล

ทีพักนั้นแนะนำให้ไปพักที่ บันดาหยา รีสอร์ท เพราะว่าอยู่ตรงหาดพัทยาเลย ห้องพักสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน บริการอาหารเช้าทุกวัน อร่อยด้วยน่ะ ข้าวผัด และชา กาแฟ ขนมปัง แพนเค้กราดด้วยน้ำผึ้งพูดแล้วนึกถึงวันวาน

เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยแล้วกัน โดยเริ่มจากท่าเรือปากบารา


นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาขึ้นเรือที่ท่าเรือปากบารา

เรือเร็วของรีสอร์ท บันดาหยา
จุได้กว่า 40 ทีนั่ง เร็วกว่าไปนั่งเรือประมงดัดแปลง เหมือนสมัยก่อน เยอะ...

 

ตารางเดินเรือ

นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเต็มเลย บนเรือแทบจะไม่มีที่นั่งเลย

เรือได้เคลื่อนออกไปจากฝั่งไปสู่ทะเลอันกว้างใหญ่

จุดพักเรือ ที่เกาะตะรุเตา

จะพักที่เกาะตะรุเตาและเกาะไข่ พักให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเล่น ก่อนที่จะเดินทางไปถึงเกาะหลีเป๊ะ
หากจองเรือเร็ว ของบันดาหยา จะมีแวะที่เกาะไข่ให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย...

ถึงโป๊ะจอดเทียบท่าเรือแล้ว
โป๊ะแบบนี้ดีหน่อย... ไม่ต้องมีเรือต่อเรือ....อาจก้าวพลาดได้

แล้วนั่งเรือลำนี้เข้าไปที่หน้าหาด เพื่่อไปที่พัก
เรือจะชาวประมงจะจอดเรียงรายเพื่่อรอรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเกาะหลีเป๊ะ
ราคาเรือ คนละ 50 บาท

หลังจากที่เข้าที่พักเรียบร้อยออกเดินเล่นบริเวณเกาะหาจุดถ่ายรูป หาดซันไรท์ อีกฝากหนึ่งของหาดพัทยา
หาดพัทยา

เดินไปเรื่อย ๆ จะพบกันหาดซันเซ็ท เป็นหาดที่เงียบสงบ

หลังจากนั้นเดินเล่นถนนคนเดินบนเกาะหลีเป๊ะ มีทั้งร้านอาหาร และของขนมของทานเล่น

ร้านนุชโรตี เป็นเจ้าแรกบนเกาะหลีเป๊ะ ใครมาห้ามพลาดน่ะ

ใกล้เย็นแล้ว เราต้องรีบไปดูพระอาทิตย์ตกบริเวณหน้าหาดพัทยา

ที่พักสำหรับ 2 คืนของเรา คือ บันดาหยารีสอร์ท 

เราได้จองกับทางเว็บนี้เลย http://www.choowap.co.th/hotel/บันดาหยา-รีสอร์ท

เราได้ห้องเตียง double room สำหรับ 2 ท่าน

ไฟสะรัวๆๆ ในห้องพักของเรา

เช้าวันต่อมาเตรียมตัวไปเที่ยวหมู่เกาะบริเวณเกาะหลีเป๊ะ
ที่แรกเลย ช่องน้ำจาบัง ชมปะการัง หลากสี ที่หาพบได้ยาก

เสร็จจากดำน้ำเสดไปเกาะหินงามกันเลย อันนี้พลาดไม่ได้เลยน่ะ หินละลานตา ทั้งเกาะจะมีแต่หินสีดำ สวย เวลาที่น้ำทะเลซัดเข้าหาดที่เป็นหินสีดำจะดูสวยมาก

น้ำใสแจ๋วเลยที่นี่ เห็นปลาตัวเล็ก

ต่อไปเราไปกินข้าวเที่ยงที่เกาะวารี พักผ่อนตามอัธยาศัย

ถ่ายรูปขอนไม้สีขาว

ถ่ายรูปกับชิงช้า

 หาดทรายขาวสะอาดมากมาก

ปิดท้ายด้วยการไปดำน้ำที่เกาะอาดัง

ที่นี่ก็น้ำใสแจ๋วเลยเหมือนกัน หาดทรายละเอียดมากๆๆๆ

หลังจากที่ดำน้ำเสร็จได้จ้างเรือให้พาไปจุดชมวิวเพิ่มเงินอีก 200 บาท


หลังจากกลับมาจากดูจุดชมวิวก็เย็นแล้ว

หลังจากที่ชมวิวเสร็จ คุณลุงก็พากลับเราเข้าที่พักอาบน้ำนอนอย่างไว เพือรอชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ากัน

เช้าของอีกวันเราดูพระอาทิตย์ขึ้นกันดีกว่า

ปิดทริปนี้ด้วยภาพเรือชาวบ้านหวังว่าสักวันคงได้กลับมาที่นี่อีกสักครั้งหนึ่ง



Tag : #เกาะหลีเป๊ะ #สตูล #ทะเลอันดามัน #จังหวัดสตูล

บทความผู้เขียน

เชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน กับที่เที่ยวคลายร้อนสุดคูล

ช่วงนี้อากาศร้อนคงหนีร้อนขึ้นเหนือไปเที่ยวเชียงใหม่กันดีกว่า เริ่มต้นง่ายๆสุดคูล สบายๆ ฉบับ 2 วัน 1 คืน ถือว่าคุ้มเกินคุ้มได้ทุกอารมณ์  ทริปนี้เ

สักครั้งหนึ่งได้ขอสัมผัสความหนาวที่ฮาโกดาเตะ

ช่วงต้นปีอยากจะสัมผัสหิมะสักครั้งในชีวิตเลยถือโอกาสได้ไปเที่ยวญ๊่ปุ่น เลยแวะเที่ยว ฮาโกดาเตะ สักคืน1 ถือว่าเป็นทางผ่านกลับโตเกียว โดนเส้นทางนี้ ได้เร

ภูลังกาในวันที่ไร้หมอก

ภูลังกา ที่ไร้หมอก แต่ดูอบอุ่น สำหรับที่นี่แล้ว ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันเลยทีเดียว เพราะว่า เป็นวิวที่สวยอยู่ตรงหน้าห้องเราพอดีเลย ส่วนเรื่องเ

แอบหลงรักปัวซะแล้วล่ะ

เที่ยวน่าน ครั้งนี้มีโอกาสได้แวะเข้าไปเที่ยวที่ อำเภอปัว จังหวัดน่าน แต่ นอนพักที่ตัวเมืองน่าน ที่พักของเราคือ ศรีนวล ลอร์จ เรามาเริ่มออกเดินทางไปพร้อ

ในวันที่ฟ้าสีน้ำทะเลที่เกาะนางยวน

มีความเชื่อมาตลอดว่า การที่ได้ไปเที่ยวใดที่หนึ่งสักครั้งต้องมีโอกาสได้กลับไปที่นั้นอีก ก็เป็นเหมือนตอนนี้ ปีที่แล้วมีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมเยือนที่เกาะ

ม่อนปุยหมอกที่รอคอย

ถ้าให้พูดถึงจังหวัดตาก สถานที่น่าเที่ยวคงหนีไม่พ้น น้ำตกทีลอซู อุ้มผาง แต่สำหรับคิดว่ามันไกลเกินไป ต้องนั่งต่อรถไปอีกไกล เลยแพลนคร่าวๆไว้ที่ "อุทยานแ

ตามหาทุ่งดอกกระเจียวสีชมพู

ทริปนี้เกิดจาก พี่ที่รู้จักบอกช่วงนี้ฝนตก ทุ่งดอกกระเจียวน่าจะเยอะ ไปกันไหม คุยกันได้ 2 วันเลยตัดสินใจ ปะไปกัน เลยตัดสินใจหาที่พัก นอนกันสัก1 คืนสำหรั

ง่ายๆ สั้นๆ ที่เกาะช้าง

ทริปเกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นอีกหนึ่งสถานที่อยากจะไปมานานมากละไม่มีโอกาสได้ไปสักครั้ง ครั้งนี้ได้ไปเพราะความตั้งใจ หรือเพราะความบังเอิญกันแน่นะ

ความทรงจำที่แสนดีที่ เกาะหลีเป๊ะ

ถ้าพูดถึงทะเลอันดามัน คนที่ชอบเที่ยวทะเลต้องรู้จักแน่ๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ถามว่าเคยไปเกาะหลีเป๊ะ จะตอบได้คำเดียวว่าสวยมาก แต่ถ้าถามคนไทยด้วยกัน นั้น

แว้นมอไซค์ไปเขาล้อมหมวก

คราวนี้เราทริปง่ายๆ ชิวๆ กันที่เขาล้อมหมวก กับมอไซร์คู่ใจ โดยเริ่มจากตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตรไปเขาล้อมหมวก เราใช้เวลาขับมอ

กิน เที่ยว ทะเล ที่ภูเก็ต

เวลาล่วงเลยมา เกือบจะ 3 ปีแล้วที่มีโอกาสได้ไปเที่ยว เพราะช่วงนั้นราคาเครื่องบินถูก และที่สำคัญจองเวลาผิด เป็นช่วงกลางคืน ทั้งขาไปและขากลับทั้งคู่เลย ป

บังเอิญผ่านไปที่ร้อยเอ็ดแวะเที่ยวพระมหาเจดีย์ชัยมงคล

 มีโอกาสได้แวะไปทำธุระที่จังหวัดร้อยเอ็ด เลยตัดสินใจแวะชมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ว่าอลังการแค่ไหน ถ้าให้เล่าถึงประวัตินี้คงยาวมาก แต่ถือว่าสวยงามสมคำ

แอ่วเหนือเบาๆ ที่น่าน

ถ้าให้พูดถึงน่านแล้วนั้น เดี๋ยวนี้จะเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ เมืองน่ารัก แต่ทริปครั้งนี้เราเริ่มเดินทาง จากตัวอำเภอนาน้อย เป็นจุดที่นักท่

หนีฝนเอาขาไปจุ่มน้ำที่เขื่อนเชี่ยวหลาน

ถ้าเอ่ยถึงการนอนบนแพ คงหนีไม่พ้นเขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนที่ล้อมรอบด้วยภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้าตระการตา สำหรับทริปนี้เป็นการเดินทางในช่วงหน้าฝนพอดีอยู่ใน

ผาหินกูบ ไม่มา ไม่เคย ไม่รู้ ก็ไม่มีทางเห็น

ผาหินกูบ จังหวัดจันทบุรี อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล จากกรุงเทพมาก ใช้เวลาอย่างเร็วก็ 4 ชั่วโมง ถือว่าเป็นสถานที่ ที่เหมาะสำหรับคนชอบเดินป่ามาก เพราะระยะทางในกา

สูดอากาศบริสุทธิ์ที่คีรีวง

  ถ้าพูดถึงกระแสการท่องเที่ยวในช่วงปีนี้ พลาดไม่ได้เลย ที่นี่ คีรีวง ถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย เพราะว่าที่นี่ล้อมรอ

เกาะล้าน ไม่ใกล้ไม่ไกลมาก

เกาะล้าน แค่พูดชื่อก็น่าไปแล้วละ เดินทางง่ายๆไม่ยากมากจากอนุเสาวรีย์ ตรงยาวเลย  เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ นั่งรถตู้ที่เขียนว่าไปท่าเรือแหลมบาลีฮายพ

ตามล่าปลาวาฬบรูด้า

 ฤดูท่องเที่ยว คือ ก.ย.-พ.ย. (แนะนำ ปลาย ต.ค. ถึง กลาง พ.ย.) ฝนน่าจะน้อยหน่อย เด่วฟ้าไปไม่เปิด ถ่ายรูปไม่สวย เรือออก เช้า 7.30-8.00 น. ในพิกัดที

บทความใกล้เคียง

เรื่องเล่าบล็อกเกอร์